Saturday, November 17, 2018

ตำนานกวนเกษียรสมุทร : พระจันทร์ปิ่นปักผมของพระศิวะ




ตำนานกวนเกษียรสมุทร


ที่มา : https://artsandculture.google.com/asset/%E0%B8%81%E0%B8%A7%

               ตำนานกวนเกษียรสมุทร เล่าว่า เมื่อนานมาแล้วเทพและยักษ์ได้สู้รบกันเพื่อแย่งชิงสวรรค์อันเป็นพื้นที่เดิมของพวกยักษ์ ในสมัยนั้นทั้งเทพและยักษ์ต่างมีฤทธิ์พอๆกัน เนื่องจากต่างฝ่ายก็มักจะได้รับพรจากพระศิวะและพระพรหม

              โดยฝ่ายเทพนำโดยพระอินทร์ ได้พยายามทุกวิธีทางเพื่อจะยึดสวรรค์มาให้ได้ เมื่อสู้ยังไงก็สู้ไม่ได้พระอินทร์ก็เลยไปขอความช่วยเหลือจาก พระนารายณ์ (พระวิษณุ) ซึ่งพระนารายณ์ก็แนะนำให้ไปทำ"พิธีกวนเกษียรสมุทร" คำว่า“เกษียรสมุทร” แปลว่า“ทะเลน้ำนม”เป็นสถานที่อยู่ของพระนารายณ์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมรุ โดยชื่อทะเลน้ำนมนี้มาจากลักษณะพื้นน้ำที่เป็นสีเงินยวงราวกับน้ำนม เพราะได้รับรัศมีแห่งอัญมณีสีเงินยวงจากเขาพระสุเมรุมาทาบทับ เพื่อให้ได้น้ำอมฤตมาดื่มจะได้มีพลังและไม่มีวันตาย แต่การจะกวนกวนเกษียรสมุทรได้ จะใช้แค่ฝ่ายเทพก็ไม่พอเพราะต้องใช้กำลังพลเยอะมาก พระอินทร์เลยออกบุบายทำสัญญาสงบศึกกับพวกยักษ์และชักชวนกันมาทำการกวนเกษียรสมุทร ได้น้ำอมฤตมาเท่าไรเราค่อยมาแบ่งกัน จากนั้นพระอินทร์ก็ให้นาควาสุกรีมาช่วยใช้ลำตัวเป็นเชือกเพื่อใช้ในการชัก

เมื่อเริ่มพิธีกวนเกษียรสมุทร ได้ใช้ภูเขามันทรคีรีมาตั้งบนทะเลน้ำนมที่อยู่ในไวกูณฑ์สวรรค์ โดยพระอิทร์คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าชักนาคเมื่อไรนาคจะต้องเจ็บปวดมากและต้องพ้นพิษออกมาแน่ๆ พระอินทร์จึงให้ยักษ์อยู่ทางหัวของนาค และให้เทพอยู่ทางหาง เมื่อเริ่มกวนนาคก็พ้นไฟพิษมาโดนยักษ์ ต่างก็ทรมานทั้งยักษ์ทั้งนาค จะมีสบายก็แต่เทพ ชักแบบชิวๆ พิธีกรรมนี้ใช้เวลาชักเป็นพันๆปีกว่าจะได้น้ำอมฤต และในระหว่างนี้ก็มีของวิเศษหลายอย่างที่ได้ออกมาก่อนน้ำอมฤต คือ

1.ดวงจันทร์ (พระศิวะเอาไปปักผม)
2.เพชรเกาสตุภะ
3.ดอกบัวลอยขึ้นมาพร้อมพระลักษมี
4.วารุณี เทวีแห่งสุรา
5.ช้างเผือกเอราวัณ (พระอินทร์เอาไปใช้)
6.ม้าอุจฉัยศรพ
7.ต้นปาริชาติ
8.โคสุรภี หรือ โคอุสุภราช พร้อมของหอม
9.หริธนู
10.สังข์
11.ปวงเทพีอัปสรสวรรค์ (มีนางอัปสรออกมาเยอะมาก พระอินทร์เอาคนเดียวไม่แบ่งใคร)
12.พิษร้าย ฝูงนาคและงูสูบพิษไว้
13.ธันวันตริ แพทย์สวรรค์
14.หม้อน้ำทิพย์อมฤต

เมื่อกวนจนได้น้ำอมฤตแล้วพวกยักษ์เห็นนางอัปสรซึ่งสวยมาก ก็พากันไล่จับนางอัปสร  ในระหว่างที่พวกยักษ์ไล่จับนางอัปสร พวกเทพก็ดื่มน้ำอมฤต แต่ยังมีพระราหูที่ไม่ไปไล่จับนางอัปสร ก็มารอดื่มน้ำอมฤต ในระหว่างที่พระราหูกำลังดื่มอยู่นั้น พระอาทิตย์กับพระจันทร์เห็นจึงไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์เลยขว้างจักรมาตัดหัวพระราหู แต่ด้วยอำนาจของน้ำอมฤตที่ดื่มไปทำให้พระราหูไม่ตาย แต่เหลือเพียงหัวจนถึงทุกวันนี้ กว่าพวกยักษ์จะรู้ว่าตัวเองโดนหลอก น้ำอมฤตก็หมดแล้ว

และในวันนี้บทความนี้จะกล่าวถึง ดวงจันทร์ซึ่งเป็นปิ่นของพระศิวะ

ที่มา : https://www.horolive.com/500.html

ปิ่นพระศิวะ

"ดวงจันทร์" เป็นของวิเศษจากทั้ง 14 อย่าง ที่ได้จากพิธีกวนเกษียรสมุทร พระศิวะได้นำไปปักไว้บนเกศา ซึ่งกลายเป็นลักษณะที่สำคัญของพระศิวะ นอกจากที่มีของปิ่นปักผมของพระศิวะบ้างก็ว่าเกิดจาก พระอิศวรบังคับให้พระจันทร์ส่งนางดาราคืนให้พระพฤหัสบดี แต่ว่าตอนนี้นางดารามีครรภ์กับพระจันทร์บ้างแล้วละ ต่อมาก็เกิดกุมารมีนามว่าพระพุธ ส่วนพระจันทร์ก็เกิดความว้าเหว่เอ้กา จึงไปอ้อนวอนพระอิศวร พระอิศวรสงสารเอาพระจันทร์มาเป็นปิ่นปักผม เข้าไปในหมู่สังคมเทวดา พระอิศวรจึงได้นามว่า จันทรเศขร แปลว่าทัดพระจันทร์เป็นปิ่น ส่วนพระจันทร์ได้นามกรว่า ศิวเศขร แปลว่าเป็นปิ่นพระศิวะ
เนื่องดวงจันทร์เป็นลักษณะสำคัญของพระศิวะ จึงขอนำเสนอสาระเกี่ยวกับพระศิวะสักเล็กน้อยค่ะ

"พระศิวะ"

พระศิวะ หรือ พระอิศวร (หนึ่งในตรีมูรติหรือเทพเจ้าสูงสุดสามองค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดู (อีกสององค์ได้แก่ พระพรหมและพระวิษณุ)

ที่มา : https://www.siamganesh.com/books/vighanesa/book-vighanesa-L.html



พระศิวะ (คนไทยเรียกว่า พระอิศวร) พระศิวะ พระศิวะทรงเป็นมหาเทพผู้เป็นใหญ่ในจักรวาล หนึ่งใน ตรีมูรติ หรือ 3 มหาเทพสูงสุดแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู (พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ) คือผู้เป็นพระเป็นเจ้าแห่งการทำลายล้าง มีอำนาจในการทำลายทุกสรรพสิ่งและ เป็นเป้าหมายอันสูงสุดแห่งการปฏิบัติธรรมของไศวะนิกาย เป็นบิดาของ พระพิฆเนศ มีชายาคือ พระแม่อุมาเทวี พาหนะแห่งพระศิวะ (นนทิ, นันทิ)


ด้านศิลปะ 

พระศิวะทรงเป็นเทพเจ้าแห่งการทำลาย ในลัทธิไศวนิกายทรงเป็นปรมาตทันสูงสุด

การสร้างรูปสื่อแทนพระศิวะ มี 2 รูปแบบ คือ
 1.ลึงค์ และมุขลึงค์ คือรูปอวัวยะเพศชาย แทนการกำเนิด เป็นสัญลักษณ์ในการบูชา
2.รูปมนุษย์ มีสองรูปแบบคือ "แบบสงบ" ในรูปฤาษี ทำสมาธิ และ "แบบเต้นรำ" ในภาคของศิวนาฎราช 

ลักษณะของพระศิวะผู้มีพระจันทร์เป็นปิ่นปักผม

- รูปกายเป็นชายหนุ่มร่างกำยำ วรรณะขาว (สีผิวขาว) 

- นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี

- มีสังวาล์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ 

- มีงูเห่าคล้องพระศอ 

- ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) สมัยเมืองพระนคร มวยผมเป็นทรงกระบอกเส้นผมประดิษฐ์เป็นวงโค้งรูปตัวยู ผิดธรรมชาติ มีกระบังหน้า

- มีพระจันทร์เป็นปิ่น มีคงคาอยู่บนยอดจุฑา ซึ่งพ่นน้ำมาตลอด 

- มีดวงพระเนตร (ตาที่ 3) กลางพระนลาฏ (หน้าผาก) ซึ่งโดยปกติจะปิดอยู่เสมอ เชื่อว่าหากเปิดขึ้นเมื่อไหร่ ไฟบรรลัยกัลป์จะเผาผลาญล้างโลก (บ้างว่าเป็นพระพรหม) ถือว่าเป็นการสิ้นสุดกัปหนึ่ง ก่อนที่พระพรหมจะสร้างโลกขึ้นมาใหม่

- มีพาหนะคือโคนนทิ (วัวเพศผู้สีขาวล้วน) 

                        รูปลักษณ์ของพระศิวะนั้น มีปรากฏมากมายหลายลักษณะด้วยกัน แต่จุดเด่นที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของพระศิวะก็คือ รูปพระจันทร์เสี้ยวและดวงตาดวงที่ 3 บนหน้าผาก สร้อยประคำที่เป็นหัวกะโหลก และงูที่คล้องพระสอหรือคอของพระองค์อยู่นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของพระศิวะที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายแต่สำหรับพระศิวะนั้น กล่าวได้ว่า รูปลักษณ์ของพระองค์ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สามารถสังเกตได้ง่าย ไม่สับสนเหมือนกับจดจำรูปลักษณ์ของมหาเทพองค์อื่นๆ
ตัวอย่างงานศิลปกรรมของพระศิวะ 

                  หากเราจะสังเกตงานศิลปะของพระศิวะ สามารถดูได้จากลักษณะของพระศิวะต้อง นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาล์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่น 

ตัวอย่างงานศิลปะของพระศิวะที่มีพระจันทร์เป็นปิ่นปักผม

ที่มา : http://www.wikiwand.com/th

เทวรูปพระศิวะริมแม่น้ำคงคา ที่บังคาลอร์ ประเทศอินเดีย วิมาน เขาไกรลาส อาวุธ ตรีศูล 
สัตว์พาหนะ โคนนทิ คู่ครอง พระปารวตี บุตร พระพิฆเนศ พระขันธกุมาร


ที่มา : http://www.wikiwand.com/th

ประติมากรรมนูนต่ำกึ่งลอยองค์ของพระศิวะและพระแม่ปารวตีประดับโคปุรัม ประเทศอินเดีย


ที่มา : ru.depositphotos.com

เมืองฤาษีเกษ เป็นเมืองที่เป็นแหล่งชุมนุมของบรรดานักบวช ฤาษี หลายลัทธิและศาสนา ต่างมาปฏิบัติตนเพื่อบรรลุโมกขธรรมตามศาสนาของตน มี สะพานลักษมันจุฬา ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นสถานที่ที่พระลักษณ์ใช้เป็นที่ข้ามแม่น้ำ ณ จุดสะพานนี้เองเราสามารถมองเห็นอาศรมฤาษี และเหนือขึ้นไปจากจุดนี้เป็นที่บำเพ็ญเพียรของพระศิวะ

ที่มา : https://www.appannie.com/ru/apps/google-play/app/com.app3dwallpaperhd.lordshivawallpaper/

ภาพวาดของพระศิวะ นุ่งห่มหนังเสือเหมือนฤๅษี มีสังวาล์เป็นลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์ มีงูเห่าคล้องพระศอ ไว้พระเกศายาว ซึ่งจะม้วนเป็นจุฑา (มวยผม) มีพระจันทร์เป็นปิ่น 



                ตังอย่างข้างต้นเราจะสามารถสังเกตเห็นดวงจันทร์ซึ่งเป็นปิ่นปักผมของพระศิวะได้ชัดเจน แต่นอกจากนั้นหากอยากรับชมงานศิลปะของพระศิวะเพิ่มเติมขอแนะนำ

ประติมากรรมบนเกาะเอเลฟันตะ เพื่อบูชาแก่เทพในศาสนาฮินดูตามที่ทรงศัทธา โดยถ้ำที่โดดเด่นที่สุด คือ “ถ้ำประธาน” เป็นที่ประดิษฐาน “มเหศวรมูรติ” ภาพแกะสลักที่นูนสูงมากจนเกือบลอยตัวเพื่อบอกเล่าเรื่องพระศิวะผู้ยิ่งใหญ่ในสามภาค ได้แก่
ภาคผู้สร้าง (จันทรเศขรมูรติ) ภาคผู้ปกป้องรักษา (อุมาภควดี) และภาคผู้ทำลาย (ไภรวะมูรติ)

ที่มา : https://travel.thaiza.com/amaze/183105/

               นอกจากนี้ ยังมีภาพแกะสลักเทพปกรณัมในลัทธิไศวนิกายที่น่าสนใจปรากฏภายในถ้ำอีก เช่น ภาพพิธีสยุมพรพระศิวะและพระนางปารตี, ภาพพระศิวะปราบอันธกาสูร, ภาพพระศิวะในภาคที่ครึ่งหนึ่งเป็นบุรุษครึ่งหนึ่งเป็นสตรี เป็นต้น




อ้างอิง 

เชษฐ์ ติงสัญชลี.(2558).ประวัติศาสตร์ศิลปะอินเดีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.นนทบุรี:มิวเซียมเพรส.

ศิลปะไทย.(ม.ป.ป).เรื่องเล่ากับพระจันทร์.(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2561.จาก

สำนักงานราชบัณฑิตยสภา.(2554).ปิ่นพระศิวะ.(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2561.จาก http://www.royin.go.th/?knowledges=%E0%

Ch3 Thailand.(ม.ป.ป).มองมุมไบ:“ถ้ำเอเลฟันตะ”ประติมากรรมแห่งความศรัทธาบนแผ่นผา.(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2561.จาก http://www.ch3thailand.com/news/series/11874


lookhin. (2555). ตำนานการกวนเกษียรสมุทร. (ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2561. จาก https://www.unzeen.com/article/1976/

Wikiwand.(ม.ป.ป).พระศิวะ.(ออนไลน์).สืบค้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2561.จาก http://www.wikiwand.com/th/%E0%B8%9E%E0%

Sunday, October 21, 2018

ปราสาทหินวัดพู มนตร์เสน่ห์เมืองลาว

"ประเทศลาว" เป็นประเทศทื่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นวิถีการดำเนินชีวิตของคนที่นี้ หรือแม้แต่สถานที่ที่มีความสวยงาม ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของประเทศลาว ประเทศลาวเป็นอีกประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีต้นไม้เขียวชะอุ่ม มองแล้ว สบายตา อากาศดี ผู้คนเป็นมิตร และนอกจากนั้น ประเทศลาวสามารถเที่ยวได้ง่าย ดังนั้น วันนี้เราจะนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวต้องมนตร์ของประเทศลาวกัน

ที่นี่>>>>>> "ปราสาทหินวัดพู"

Related image
ที่มา : https://www.worldatlas.com/articles/vat-phou-temple-and-champasak-culture-sites-in-laos.html

ปราสาทหินวัดพู ตั้งอยู่ที่ แขวงจำปาศักดิ์ ประเทศลาว 

ความเป็นมา : ปราสาทหินวัดพู หรือวัดพู นครจำปาสัก ในอดีตเคยป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งอารยธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกัน คือ อาณาจักรเจนละในช่วงศตวรรษที่ 6-8 ค้นพบจารึกกล่าวถึงการฆ่าคนเพื่อบูชาแด่เทพเจ้า ต่อมาเป็นยุคของอาณาจักรขอมสมัยก่อนเมืองพระนคร เลือกบริเวณนี้เป็นที่สร้างปราสาทหิน และสุดท้ายอาณาจักรล้านช้างได้เปลี่ยนเทวลัยในศาสนาฮินดูให้เป็นวัดในพุทธศาสนานิกายเถรวาท ปัจจุบันปราสาทหินวัดพู ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวพุทธ

Image result for ปราสาทหินวัดพู


ที่มา : http://www.newviewtour.com

ลักษณะของปราสาท : เป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร สร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 12 มีอายุมากกว่า 1,000 ปี ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ถือว่าเป็นปราสาทหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด

ปราสาทหินวัดพู มรดกโลกแห่งลาวใต้ à¸›à¸£à¸²à¸ªà¸²à¸—หินวัดพู มรดกโลกแห่งลาวใต้
ที่มา : http://www.oceansmile.com/Lao/Watphu.htm

ตรงบริเวณปราสาทจะมีบันไดขึ้น 3 ชั้นลดหลั่นกันไปจนถึงองค์ประธานของปราสาท และพอเข้าไปในวัดจะมองเห็นซากพระราชวังที่ราชวงศ์จำปาสักสร้างไว้ มีบันไดทางขึ้นที่ผ่านสระน้ำทรงสี่เหลี่ยม และยังมี ปราสาทส่วนกลางมีปรางค์ 2 หลังขนาบและเหนือทางเข้า มีทับหลังที่แกะสลักเล่าเรื่องเกี่ยวกับศาสนาฮินดู จากลักษณะอันโดดเด่นของปราสาทหินวัดพูและสิ่งก่อสร้างใกล้เคียงทำให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่สองของประเทศลาว 



ที่มา : http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/

ฉากหลังของปราสาทจะเป็นภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายกับหน้าอกของหญิงสาวหรือคนเกล้ามวยผม บางทีเขาก็เรียกกันว่าภูเขานมสาว แต่ที่นี่คนนิยมเรียกกันว่า ภูเกล้า มากกว่า 

บรรยากาศที่ปราสาทแห่งนี้ให้ความรู้สึกถึงความอลังการ ความขลัง และมีความเก่าแก่ตามกาลเวลา และนอกจากนั้นสถานที่แห่งนี้ข้างบนเป็นภูเขาแต่ว่าข้างล่างนั้นจะเป็นแม่น้ำโขง ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ทำให้สามารถเดินชมปราสาทได้อย่างสบาย อากาศไม่ร้อนมาก และยังสบายตาไปกับสีเขียวชะอุ่มรอบๆปราสาท 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อย่างที่รู้กันว่าประเทศลาวมีวิถีที่เรียบง่าย และรักษาวัฒนธรรมเป็นอย่างดี ส่งผลให้ประเทศนี้เป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมเยอะแยะมากมาย หากได้ไปเที่ยวประเทศลาว ก็เป็นอีกสถานที่ที่แนะนำให้ลองไปเที่ยวกันนะคะ เพราะนอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในลาว แล้วยังได้รับการลงทะเบียนเป็นมรดกโลกของประเทศลาวอีกด้วย 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

Amazing Thailand.(2560).ปราสาทหินวัดพู สถาปัตยกรรมโดดเด่น มรดกโลกที่ควรรักษา.สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2561.จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th

Kapook.(2556).10 อันดับสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต มนตร์เสน่ห์เมืองลาว..สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2561.จาก https://travel.kapook.com/view70555.html

บริษัท โอเชี่ยนสไมล์ทัวร์ จำกัด.(ม.ป.ป). “ลาวใต้ ปราสาทหินวัดพู ปราสาทวัดพู มรดกโลกแห่งลาวใต้”.สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2561.จาก http://www.oceansmile.com/Lao/Watphu.htm 

อุบลรัตน์ มีโชค.(ม.ป.ป).มรดกโลกในลาว 2 : ปราสาทหินวัดพูและสิ่งก่อสร้างใกล้เคียงในแขวงจำปาสัก..สืบค้นเมื่อ 21 ตุลาคม 2561.จาก http://aseannotes.blogspot.com/2014/08/2_10.html



Monday, October 8, 2018

เที่ยวเวียดนามอย่าลืมไป "พระราชวังทังลอง" แห่งความพิศวง

 สวัสดีค่ะ ทุกท่านวันนี้เราจะมาแนะนำสถานทีท่องเที่ยวในประเทศเวียดนามกันนะคะ 
ประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่อยู่ใกล้ๆกับประเทศไทยของเราเอง สามารถไปเที่ยวได้สะดวกสบาย ราคาไม่แพงมากนัก 
และวันนี้เราก็จะมาแนะนำสถานที่เที่ยวมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งหนึ่งในประเทศ
เวียดนาม นั่นคือ "พระราชวังทังลอง" นั่นเองค่ะ :)


ที่มา : http://www.vietnam-guide.com/hanoi/imperial-citadel.htm

พระราชวังทังลอง อยู่ที่ ฮานอย ประเทศเวียดนาม 
พระราชวังทังลอง สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หลี เวียต (Ly Viet) 
เพื่อประกาศเอกราชของอาณาจักรด๋ายเวียต (Dai Viet) 
เมื่อ พ.ศ.1379 ดังนั้นพระราชวังแห่งนี้มีอายุราว 1000 กว่าปีมาแล้ว !!


ที่มา : http://www.vietnam-guide.com/hanoi/imperial-citadel.htm

พระราชวังที่สร้างขึ้นด้วยหินทั้งหมด จุดนี้เป็นสิ่งที่น่าพิศวง เมื่อ 1,000 กว่าปีมาแล้ว ในสมัยนั้นสามารถสร้างพระราชวังหินแห่งนี้สร้างขึ้นได้อย่างไรกัน ด้วยความยิ่งใหญ่ของพระราชวัง และพระราชวังยังมีความงดงามจนถึงปัจจุบัน 

ที่มา : http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th

พระราชวังทังลอง มีการผสมผสานศิลปะจาก 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรฮั่น (จีน) และ อาณาจักรจัมปาทางใต้ และยังมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ยาวนาน สะท้อนอารยะธรรมในเขตลุ่มแม่น้ำแดงตอนล่าง ที่ตั้งอยู่ระหว่างอิทธิพลของอาณาจักรฮั่น (จีน) และ อาณาจักรจัมปา (Champa) ทางใต้ การผสมผสานศิลปะจากทั้งสองอาณาจักรทำให้พระราชวังทังลองมีความสวยงามนั่นเอง และยังเป็นสถานที่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามระดับโลกเลยทีเดียว 

ที่มา :  http://www.vietnam-guide.com/hanoi/imperial-citadel.htm

 พระราชวังทังลองเป็นพระราชวังหินแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 


ปัจจุบันพระราชวังทังลอง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2553 

หากได้มีโอกาสไปเยือน ฮานอย ประเทศเวียดนาม ลองไปเที่ยวพระราชวังทังลอง ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของฮานอย  เพราะเป็นสถานที่ยอดฮิตเมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนจะต้องเข้าชม 
ราคาเข้าชม ผู้ใหญ่ค่าเข้าชมแค่ 16 บาทไทย (10,000 ดงเวียดนาม) ถ้าเป็นเด็กระหว่างอายุ 10-15 ปีก็จะเป็น 5,000 ดงเวียดนามหรือประมาณ 8 บาทไทย ซึ่งเป็นราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าที่ได้เข้าชมสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นมรดกโลกอีกด้วย 


อ้างอิง

เสถียรพงศ์ ใจเย็น.(ม.ป.ป).มรดกโลกในเวียดนาม 4 : ป้อมปราการจักรพรรดิแห่งทังลอง-ฮานอย.สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2561.จาก http://aseannotes.blogspot.com/2014/07/4.html

สิริรักษ์ วุฒิจรรยารักษ์.(2557).พระราชวังทังลอง แห่งเวียดนาม The Imperial Citadel of Thang Long-Hanoi..สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2561.จาก http://thaigoodview.com/node/181731?page=0,7

Amazing Thailand.(2560).พระราชวังทังลอง พระราชวังที่สร้างด้วยหิน งดงามข้ามกาลเวลา.สืบค้นเมื่อ 8 ตุลาคม 2561.จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th


Sunday, September 23, 2018

สถาปัตยกรรมความคลาสสิค "มหาวิหารวีรกัน" (Cathedral of Vigan)




                         สถาปัตยกรรมความคลาสสิค "มหาวิหารวีรกัน" (Cathedral of Vigan)



                     สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความตะวันตก สไตล์คลาสสิคแต่อยู่ในภูมิภาคของเรา คือ ประเทศฟิลิปปินส์ นั่นเอง ประเทศฟิลิปปินส์เคยเป็นประเทศที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของตะวันตกก่อนจะได้โอกาสพัฒนาวัฒนธรรมของตนเอง จึงทำให้ประเทศฟิลิปปินส์มีวัฒนธรรมมีส่วนคล้ายกับตะวันตก และที่ประเทศฟิลิปปินส์มีเมืองสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปที่สวยงามมากมาย ดังเช่น 

มหาวิหารวีรกัน เมืองโบราณวีกัน





เมืองโบราณวีกัน ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะลูซอน ในจังหวัดอีโลโกสซูร์ (Ilocos Sur) ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ เมืองนี้ได้รับอิทธิพลจากสเปนเมื่อตอนตกเป็นอาณานิคมของสเปนและยังคงมีการรักษาคงเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลไว้ ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความตะวันตก 
สวยงามตามสไตล์คลาสสิคให้เราได้ลองไปเที่ยวชมกัน

ที่มา : https://sg.news.yahoo.com/blogs/pinay-solo-backpacker/best-walkable-cities-ph-050149028.html


มหาวิหารวีรกัน เป็นสถานที่สำคัญในเมืองวีกันที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ และยังถือเป็นโบสถ์ที่โดดเด่นที่สุดในเมืองวีกัน  

ที่มา : https://www.lakadpilipinas.com/2014/09/vigan-st-paul-cathedral.html

มหาวิหารวีรกัน (Cathedral of Vigan) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า อาสนวิหารนักบุญเปาโล (อังกฤษ: St.Paul Metropolitan Cathedral) เป็นอาสนวิหารประจำอัครมุขมณฑลโรมันคาทอลิกนวยวาเซโกเวีย

 การก่อสร้าง :   สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1574 โดย ควน เด ซัลเซโด (Juan de Salcedo) เดิมสร้างขึ้นจากไม้ แต่ถูกทำลายลงเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวใน ปี ค.ศ. 1619 และ1627 จึงมีการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง ซึ่งที่เห็นในปัจจุบันเป็นวิหารที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ด้วยรูปแบบศิลปะบารอค สีขาว อาคารมีความแข็งแรงคงทนสามารถต้านทานแผ่นดินไหวและพายุไต้ฝุ่นได้ มีหอระฆังสูง 25 เมตร สร้างแยกจากวิหาร

ที่มา: https://pantip.com/topic/32521283

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม :  เป็นการออกแบบผสมผสานระหว่างศิลปะแบบจีนกับศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แผงด้านหน้ามีลักษณะแบบคลาสสิค ตรงกลางประกอบด้วยหน้าบันสามเหลี่ยมหน้าจั่ว รองรับด้วยเสาไอโอนิคในชั้นบนและดอริคในชั้นล่าง ส่วนที่อยู่ระหว่างเสาและหลังคาแสดงลวดบัวตามระเบียบแบบคลาสสิคอย่างชัดเจน ซุ้มโค้งรูปตรงกลางมีรูปเซนต์ปอลขี่ม้า   และด้านบนหน้าบันแสดงสัญลักษณ์ของเซนต์ปอล คือ ดาบและใบปาล์มอันเป็นสัญลักษณ์ของมรณสักขี (martyrdom) องค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นแบบคลาสสิคแต่สามารถสังเกตสิ่งที่ออกแบบตามแบบบารอค และแบบจีน ได้ คือ การประดับด้วยถ้วยรางวัลที่อยู่ระหว่างเสาและหลังคาชั้นบน ส่วนเหนือซุ้มประตูมีสิงโตหินแบบจีนมาประดับ

ที่มา : http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth/

ายในอาสนวิหาร แห่งเมืองวีกันแสดงให้เห็นการแบ่งระหว่างทางเดินกลางโบสถ์ กับ ทางเดินระหว่างที่นั่ง อย่างชัดเจนกว่าโบสถ์อื่นๆในพื้นที่เดียวกัน การแบ่งนี้ใช้แถวเสาที่มีอาร์คเชื่อมโยงกันเป็นตัวแบ่ง


การเดินทางสู่เมืองวีกัน : จากกรุงมะนิลาเมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ สามารถใช้บริการสายการบินภายในประเทศบินมาลงที่เมืองลาวัก ใช้เวลาประมาณชั่งโมงครึ่ง และต่อรถสามล้อเครื่องไปที่ท่ารถ PARTAS เพื่อนั่งรถทัวร์ต่อไปยังเมืองวีกันใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

ที่มา : http://www.thephilippines.com/2017/12/top-most-beautiful-hotels-vigan-ilocos-sur-philippines.html#.W6dNOXszbIU

           เมืองวีกันเป็นเมืองโบราณมีชื่อเสียงในฐานะที่เคยเป็นแหล่งอารยธรรมสมัยจักรวรรดิสเปนในอดีตและยังเป็นมรดกโลกจากองค์ Unesco เนื่องจากเมืองวีกันซึ่งอาคารสำคัญๆที่มีอยู่ในเมืองวีกัน ล้วนก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบสเปนที่สวยงาม ทั้ง ถนน อาคาร บ้านเรือนเก่าแก่ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่มาก และด้วยเหตุผลทางด้านการอนุรักษ์ รัฐบาลจึงประกาศไม่ให้รถเครื่องทุกชนิดเข้ามาสัญจรในถนนเส้นนี้ อนุญาตให้คนเดินหรือรถม้าวิ่งเท่านั้น หากใครที่จะไปเที่ยวฟิลิปปินส์ ลองไปเที่ยวเมืองวีกัน เมืองแห่งความคลาสสิคที่มีความสวยงาม สามารถนั่งรถม้าชมเมือง ได้บรรยากาศเหมือนไปเที่ยวยุโรปสุดๆ 

ที่มา : http://vigancity.gov.ph/




"Enjoy your trip :)"







ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
Amazing Thailand.(2560).พาไปชมความคลาสสิกของเมืองประวัติศาสตร์วีกัน ฟิลิปปินส์.
สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561. จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th

Amazing Thailand.(2560).นั่งรถม้าเที่ยวเมืองโบราณวีกัน … ย้อนสู่ยุคอาณานิคมสเปน.
สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561.จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th

เชษฐ์ ติงสัญชลี.(ม.ป.ป).ภายใน : อาสนวิหารเมืองวีกัน.
สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561.จาก http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth/

เชษฐ์ ติงสัญชลี.(ม.ป.ป).อาสนวิหาร(Cathedral)เมืองวีกัน(Vigan).
สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561.จาก http://art-in-sea.com/th/data/philippines/

วิชุดา วรภัทรากุล.(2556).เมืองประวัติศาสตร์วีกัน ประเทศฟิลิปปินส์. 
สืบค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561.จาก http://www.thaigoodview.com/node/160885?page=0,8

Monday, September 10, 2018

สถานที่สำคัญใน "ทะเลเจดีย์ พุกาม"






สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศพม่า 
เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกันดี ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง เป็นประเทศที่เหมาะกับการท่องเที่ยวพักผ่อนแบบ 'สโลว์ไลฟ์'  หรืออยากจะชมสถาปัตยกรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์และงดงาม
และวันนี้เราจะมาแนะนำวัดและเจดีย์ที่สำคัญๆในพุกาม ประเทศพม่า

LET'S GO ➝

"ทะเลเจดีย์ พุกาม"


ที่มา : http://airasiagotravelreview.com


พุกาม คือ เมืองในพม่า เคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรพุกาม อาณาจักรแห่งแรกของชาวพม่า (พ.ศ.1587-1830) ปัจจุบันพุกามอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ พุกามแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 
  • เขตเมืองเก่า (เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม)
  • เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน) 
  • ยองอู (เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ)

พุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ ปัจจุบันเหลือแค่เพียง 2,217 องค์ เนื่องจากพุกามมีเจดีย์หลายพันองค์ ถ้าไปเที่ยวให้ครบเกรงจะไม่ไหว เราจึงได้เลือกสถานที่สำคัญๆ ในพุกามมา 3 สถานที่ มาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันก่อน 

1.เจดีย์ชเวซีโกน
เจดีย์แห่งแรกของพุกามคือ เจดีย์ชเวซีโกน เป็นวัดในเมืองยองอูและ ยังเป็นต้นแบบเจดีย์วัดของพม่าองค์อื่นๆในศิลปะพุกามและศิลปะพม่ารุ่นหลังๆ สร้างโดยพระเจ้าอโนรธามังช่อ ปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม โดยธรรมเนียมการสร้างเจดีย์ เจดีย์องค์ใหญ่สุดจะเป็นเจดีย์ที่กษัตริย์ทรงสร้าง  

ลักษณะทางสถาปัตยกรรม : เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำแบบมอญ พื้นผิวภายนอกถูกปิดด้วยทองคำเปลว ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมจำนวน 3 ชั้น รวมความสูงจากฐานถึงยอด 53 เมตร แต่ละชั้นประดับภาพชาดกและมีทางประทักษิณพร้อมบันไดขึ้นทุกด้าน ที่มุมประดับด้วยสถูปิกะ องค์ระฆังประดับด้วยรัดอกและบัวคอเสื้อตามแบบเจดีย์พม่าโดยทั่วไป ไม่มีบัลลังก์ ถัดขึ้นไปได้แก่ปล้องไฉนทรงกรวยเตี้ย ปัทมบาทและปลีสั้นซึ่งถือเป็นลักษณะสำคัญของเจดีย์แบบพม่าในศิลปะพุกาม โดยรอบฐานเจดีย์มีวิหารโถงประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ ถือเป็นศิลปะพุกามรุ่นแรกที่ได้รับอิทธิพลจากมอญ

ที่มา : http://gothailandgoasean.tourismthailand.org



2.เจดีย์ชเวซานดอ
เจดีย์ชเวซานดอ เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโนรธาโปรดให้สร้างเจดีย์ชเวซานดอเพื่อบรรจุพระเกศธาตุจากเมืองมอญ ก็ยังมีรูปปั้นเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดูตั้งอยู่บริเวณลานของวิหาร จึงมีชื่อเรียกแบบฮินดูว่าเจดีย์กาเนซา (Ganesha Pagoda) นอกจากนั้น เจดีย์ชเวซานดอว์ยังเป็นจุดชมทุ่งเจดีย์แห่งหนึ่งของพุกามที่เลื่องชื่อว่ายามพระอาทิตย์ตกหรือพระอาทิตย์ขึ้น สามารถเห็นภาพหมู่เจดีย์สุดลูกหูลูกตา ยามที่ต้องแสงสีแดงอ่อนแห่งยามเช้าและเย็น เป็นภาพที่งดงามมากทีเดียว
ลักษณะทางศิลปกรรม : เจดีย์ประกอบด้วยฐานในผังสี่เหลี่ยมเพิ่มมุมจำนวนถึง 5 ชั้น ซึ่งมีจำนวนฐานมากกว่าเจดีย์ชเวซิกอง แต่ละชั้นมีทางประทักษิณพร้อมบันไดขึ้นทุกด้าน องค์ระฆังมีขนาดค่อนข้างเล็กเนื่องจากตั้งอยู่บนฐานสูง ไม่มีบัลลังก์ ถัดขึ้นไปได้แก่ปล้องไฉนทรงกรวยเตี้ย ปัทมบาทและปลี
ด้วยเหตุที่ฐานที่มีจำนวนมากเกินไปและองค์ระฆังที่มีขนาดเล็กเกินไป ทำให้เจดีย์แบบพม่าแท้องค์นี้ไม่ได้รับการพัฒนาต่อ แตกต่างไปจากเจดีย์ชเวซิกองที่มีความลงตัวทางด้านสัดส่วนมากกว่า และได้รับสืบทอดไปสู่ศิลปะในระยะหลัง

ที่มา : https://board.postjung.com/698338.html

3.อานันทวิหาร
อานันทวิหาร คือ วิหารขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองพุกาม ประเทศพม่า สร้างขึ้นราวๆปี พ.ศ. 1633 ในสมัยพระเจ้าจานสิตา กษัตริย์องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์พุกาม มีความสำคัญในฐานะได้รับการยกย่องว่าเป็น "เพชรน้ำเอกของพุทธศิลป์สกุลช่างพุกาม" พระเจ้าจันสิตถาโปรดให้สร้างเจดีย์องค์นี้ขึ้น โดยมีตำนานกล่าวว่าพระสงฆ์จากอินเดียได้เล่าถึงถ้ำนันทมูลในภูเขาคันธมาทน์ พระองค์จึงได้สร้างเจดีย์องค์นี้เพื่อให้เหมือนกับถ้ำดังกล่าว 
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม : อานันทเจดีย์ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของเจดีย์วิหารหรือกู่ในศิลปะพุกามตอนต้น รัชกาลพระเจ้าจันสิตถาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง เป็นเจดีย์ที่อยู่ในผังครรภคฤหะสี่ทิศ มณฑปสี่ทิศ ซึ่งทำให้แผนผังกายเป็นกากบาท ตรงกลางปรากฏแกนกลางทึบขนาดใหญ่รับน้ำหนักของยอดศิขระ แผนผังแบบนี้ปรากฏมาก่อนแล้วตั้งแต่ในศิลปะปาละ ภายนอกปรากฏหลังคาลาดขนาดใหญ่ที่ประดับสถูปิกะขนาดเล็กทั้งสี่ทิศ หลังคาลาดนี้รองรับศิขระซึ่งประดับซุ้มที่เก็จประธาน โดยทั้งหมดนี้คล้ายคลึงกับหลังคาลาดและศิขระของเจดีย์นาคยน อย่างไรก็ตาม หน้าต่างที่ไม่มีแผงกั้นของอานันทเจดีย์ ย่อมทำให้แสงสามารถเข้าไปภายในอาคารได้มากกว่าเจดีย์ในระยะก่อนหน้า

ที่มา : http://airasiagotravelreview.com/travel-experience/6343


ที่มา : http://oknation.nationtv.tv

การเดินทาง : ขึ้นเครื่องบินจากกรุงเทพ ➝ มัณฑะเลย์ และต่อรถแท็กซี่ไปที่พุกามได้เลย (55,000 kr) และยังสามารถท่องเที่ยวโดยนั่งรถบัสได้  


เจดีย์และวัดในพุกาม ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ เนื่องจาก กษัตริย์ในสมัยนั้นมีความเลื่อมใสในพระพุทธศานาเป็นอย่างมาก หากใครสนใจอยากมาลองเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศพม่าก็เป็นอีกตัวเลือก เพราะ ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ การเดินทางสะดวก 


บล็อกหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามกันนะคะ 

.. Enjoy your trip ; )







อ้างอิง

เชษฐ์ ติงสัญชลี.(ม.ป.ป).อานันทเจดีย์.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth

เชษฐ์ ติงสัญชลี.(ม.ป.ป).เจดีย์ชเวซานดอ.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth

วิกิพีเดีย.(2561). พุกาม.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/

วิกิพีเดีย.(2561). เจดีย์ชเวซีโกน.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/

โอเชี่ยนสไมล์.(ม.ป.ป).พุกาม ทะเลเจดีย์พุกาม ประวัติศาสตร์พุกาม ประเทศพม่า.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://www.oceansmile.com/Phama/PhukamKing.htm

Amazing Thailand.(2560).สักการะเจดีย์แห่งความอัศจรรย์ 9 ประการ “พระมหาธาตุเจดีย์ชเวซีโกน.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th

Amazing Thailand.(2560).สัมผัสจิตสิญญาณพม่าผ่าน “อานันทวิหาร” เพชรน้ำเอกแห่งพุกาม
.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th

dooasia.(2554).มหาเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Paya) พุกาม ประเทศพม่า.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://www.dooasia.com/trips/detail.php?id=306

thaifly.(2557).ข้อมูลเที่ยวพม่า : อานันทวิหาร (Ananda Phaya) อัญมณีแห่งพุกาม.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก https://www.thaifly.com/index.php?route=news/news&news_id=1260

tripdeedee.(ม.ป.ป).เจดีย์ชเวซิกอง / เจดีย์ชเวสันดอ.สืบค้นเมื่อ 10 กันยายน 2561. จาก http://www.tripdeedee.com/traveldata/myanmar/myanmar12.php



Friday, August 31, 2018

Borobodur : บุโร พุทโธ วัดในศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก



Borobodur : บุโร พุทโธ วัดในศาสนาพุทธที่ใหญ่ที่สุดในโลก


ที่มา : http://ktktour.net


สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่านกลับมาพบกันอีกครั้ง ☺️
ครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทยมากนัก นั่นคือ ประเทศอินโดนีเซีย นี่เอง 〜 นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างเกาะบาหลีแล้ว ประเทศอินโดนีเซียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เมื่อไปเยือนแล้วไม่ควรพลาด ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศอินโดนีเซีย สุดมหัศจรรย์และอลังการ Let's go!

 ↓

"บุโร พุทโธ (Borobodur)" 


ที่มา : https://traveltoyogyakarta.blogspot.com/2017/11/borobudur.html


บุโรพุทโธ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศอินโดนีเซียและ ยังถือว่าเป็นสถานที่สำคัญของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก 

การเข้าชมบุโรพุทโธมีค่าเข้าชม  216,000 รูเปีย/คน (ประมาณ 583 บาท)
บุโรพุทโธ (Borobudor) คือ ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายาน สร้างขึ้นโดย กษัตริย์แห่งราชวงศ์ไศเลนทราแห่งชวาด้วยแรงศรัทธาที่มีต่อพระพุทธเจ้า สันนิษฐานว่าสร้างราวคริสต์ศตวรรษที่ 7-9 ตั้งอยู่ในชวาภาคกลางห่างจากเมืองยอกยากาตาร์ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นเนินเข้ากว้างใหญ่จำลองมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งแม่น้ำคงคาและแม่น้ำยมุนาไหลมาบรรจบกันเช่นที่ประเทศอินเดีย ทำให้เจดีย์โบราณบุโรพุทโธเปรียบเสมือนดอกบัวลอยอยู่ในน้ำรูปทรงภายนอกเป็นรูปทรงดอกบัวอันเป็นสัญลักษณ์ของพุทธศาสนา ดอกบัวขนาดมหึมานี้ลอยอยู่ในบึงใหญ่ 

ที่มา : https://sanookwitharts.blogspot.com/2017/10/blog-post_19.html

ความมหัศจรรย์ของบุโรพุทโธเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ด้วยรูปแบบและรายละเอียดศิลปะความคิดของช่างสมัยนั้นโดยสร้างตามแบบศิลปะฮินดู-ชวา หรือศิลปะชาวภาคกลางที่ผสมระหว่างอินเดียกับอินโดนีเซียเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวเป็นสิ่งก่อสร้างที่ทำด้วยหินแอนดีไซต์ (Andesite) ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟขนาดใหญ่มหึมา 


ที่มา : https://9kant.wordpress.com/2014/04/03/027/


บุโรพุทโธ แบ่งเป็น 3 ส่วน ตามความเชื่อของพระพุทธศาสนา คือ
1. กามธาตุ เป็นชั้นต่ำสุด เป็นโลกแห่งความปรารถนาหรือกิเลส
2. รูปธาตุ เป็นชั้นกลาง เป็นโลกที่สามารถควบคุมความปรารถนาได้บ้าง แต่ก็ยังติดอยู่ในกิเลส
3. อรูปธาตุ เป็นชั้นสูงสุด เป็นโลกของการหลุดพ้นไม่ยึดติดในรูปธรรม


บุโรพุทโธมีลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรม คือ เป็นสถูปตั้งอยู่บนพีระมิดทรงขั้นบันได  
มีความสูงกว่า 42 เมตรจากฐานชั้นล่าง บุโรพุทโธมีทั้งหมด 10 ชั้น  ซึ่งแต่ละชั้นจะมีภาพสลักนูนต่ำแสดงคติธรรมทางพุทธศาสนาด้วยทัศนคติเกี่ยวกับจักรวาลตามพุทธศาสนาและการเข้าสู่นิพพาน 
6 ชั้นนับจากฐานเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมแบบย่อมุม  คล้ายพีระมิดขั้นบันไดชั้นที่ 7 เป็นฐานวงกลมขนาดใหญ่  ขึ้นไปอีก 3 ชั้น ประดับเจดีย์ทรงระฆังโปร่งฉลุลายเป็นรูปสี่แหลี่ยมข้าวหลามตัด  ครอบองค์พระพุทธรูปองค์เล็กข้างใน ส่วนนี้ มีความเชื่อกันว่าหากยื่นมือไปจนถึงและสัมผัสพระพุทธรูปภายในได้พร้อมอธิษฐานแล้วจะสมหวังและโชคดี  เจดีย์เหล่านี้มีจำนวน 72 องค์ เรียงเป็นแนวล้อมรอบสถูปของชั้นที่ 10 ซึ่งมีลักษณะเป็นฐานวงกลมใหญ่ของเจดีย์องค์ประธานสูง 150 ฟุต  เดิมเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่ข้างใน  แต่ปัจจุบันว่างเปล่าบุโรพุทโธเปรียบเสมือนศูนย์กลางของจักรวาล



ที่มา : https://9kant.wordpress.com/2014/04/03/027/




บุโรพุทโธคงความยิ่งใหญ่ยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คน ผ่านกาลผ่านสมัยจวบจนเข้าต้นพุทธศตวรรษที่ 18 ซึ่งใกล้สิ้นยุคของศรีวิชัย ซึ่งในเวลานั้นชาวโปรตุเกสได้เริ่มเข้ามายึดครองหมู่เกาะต่าง ๆ และอิทธิพลของศาสนาอิสลามได้เข้ามาแทนที่ บุโรพุทโธได้ถูกลืมเลือนไปและถูกทิ้งร้างท่ามกลางป่าเขาเป็นเวลานับร้อย ๆ ปี จนกระทั่งพุทธศตวรรษที่ 24 เซอร์โทมัส แสตนฟอร์ด ราฟเฟิล ชาวดัทซ์ ได้ค้นพบบุโรพุทโธขึ้นอีกครั้งในสภาพที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง และมีการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งแรก ในระหว่าง พ.ศ.2448-2453


หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศหรือนักท่องเที่ยวที่ เบื่อน้ำทะเล เหนื่อยกับการปีนเขา อยากเปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบใหม่บ้าง 'บุโรพุทโธ' ก็เป็นอีกสถานที่ที่แนะนำให้ลองไปสัมผัสกันดูนะคะ เพราะเป็นศาสนสถานที่สำคัญของพุทธศาสนานิกายมหายานที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง มีความอลังการ มหัศจรรย์การก่อสร้างอย่างชาญฉลาด และความสวยงามของสถาปัตยกรรมแล้ว นอกจากนั้นองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้บุโรพุทโธเป็นมรดกโลก ในปีพ.ศ. 2534 อีกด้วย 
See you later.
♥️
Enjoy your trip ;)




ขอขอบคุณข้อมูล 

Apirath Tanchot.(2560).Borobudur - บุโรพุทโธ.สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จาก https://traveltoyogyakarta.blogspot.com/2017/11/borobudur.html

Mountian seal. (2559). Breath of East Java : ทริปภูเขาไฟ 5 วัน ฝ่าฝุ่นควันและกำมะถันแห่งชวาตะวันออก.สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จาก https://th.readme.me/p/1939

Planet worldwide.(มปป).มหาพุทธสถานบุโรพุทโธ (Borobudur Temple).สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จาก https://www.planetworldwide.com

Premium world.(2559).5 สถานที่เที่ยว อินโดนีเซีย ไม่ไปไม่ได้แล้ว.สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จาก https://www.premiumworldtour.com

Super Big Eagle.(2560).“บุโรพุทโธ” พุทธสถานศูนย์กลางพุทธศาสนาอันยิ่งใหญ่ที่เจริญรุ่งเรืองในยุคของอาณาจักรศรีวิชัย.สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จาก https://www.winnews.tv/news/12498

Tripdeedee.(มปป).ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวบุโรพุทโธ (Borobudur).สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จาก

Hash corner.(2559).เที่ยวบุโรพุทโธ ปรัมบานัน ยอร์กยาการ์ตา #อินโดนีเซีย รีวิวที่สมบูรณ์ที่สุด.สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2561.จากhttps://www.hashcorner.com

ตำนานกวนเกษียรสมุทร : พระจันทร์ปิ่นปักผมของพระศิวะ

ตำนานกวนเกษียรสมุทร ที่มา : https://artsandculture.google.com/asset/%E0%B8%81%E0%B8%A7%                ตำนานกวนเกษียรสมุทร ...